บันทึกการเรียนครั้งที่ 1

วัน ศุกร์ ที่ 13 มกราคม พ.ศ.2560 เวลา 8:30 – 12 : 30 น.

    

         วันนี้อาจารย์ เบียร์ ได้แจกแนวการสอนและใบปั้ม หลังจากพูดคุยเสร็จอาจารย์ก็ได้เริ่มทำการสอน ในวันนี้เราได้เรียนในเรื่องของเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ เนื้อหามี ดังนี้

เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ ( Early Childhood with special needs )

ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

1.ทางการแพทย์  มักจะเรียกเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่า “เด็กพิการ” หมายถึง เด็กที่มีความผิดปกติ มีความบกพร่อง สูญเสีย สมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย การสูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ

2.ทางการศึกษา  ให้ความหมายเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หมายถึง เด็กที่มีความต้องการทางการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา หลักสูตร กระบวนการที่ใช้ และการประเมินผล

สรุป

·       เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามปกติ

·       มีสาเหตุจากสภาพความ บกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์

พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

·       การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล

·       ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

·       เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน(การพัฒนาเป็นลำดับขั้นเหมือนเด็กปกติแต่จะล่าช้ามากๆ)

·       พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน หรือทุกด้าน

·       พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าด้วยก็ได้

·       พัฒนาการคงที่ไม่มีการเปลี่ยงแปลง(บางคน)

·       พัฒนาการถดถ้อยหลัง(บางคน)

ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก

·       ปัจจัยทางด้านชีวภาพ 

·       ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด     

·       ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด      

·       ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด 

สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ

1. พันธุกรรม  เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งแต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิด  มักมีลักษณะผิดปกติแต่กำเนิดร่วมด้วย เช่น โรคปากแหว่งเพด้านโหว่ ธาลัสซีเมีย เท้าแสนปม

             

2. โรคของระบบประสาท  เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการหรืออาการแสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย  ที่พบบ่อยคืออาการชัก(การทำงานของระบบปรัสาทผิดปกติ)

3. การติดเชื้อ การติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติ อาจมีตับม้ามโต การได้ยินบกพร่อง ต้อกระจก  นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่น สมองอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบได้บ้าง

4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม  โรคที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย คือ ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ ระบบเผาผลาญ (รักษาได้แต่ไม่หายขาดต้องรับยาเป็นประจำ)

5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย และภาวะขาดออกซิเจน (การคลอดก่อนกำหนด)

6. สารเคมี เช่น ตะกั่วเป็นสารที่มีผลกระทบต่อเด็กและมีการศึกษามากที่สุด  แอลกอฮอล์  นิโคติน

แอลกอฮอล์ จะทำให้เด็กมีพัฒนาการของสติปัญญาก็มีความบกพร่องและจะเด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์

7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งการขาดสารอาหาร

8. สาเหตุอื่นๆ

อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

·       มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน

·       ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป(หายก่อน 1 ขวบ)

แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

1. การซักประวัติ

·       โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม

·       การเจ็บป่วยในครอบครัว

·       ประวัติฝากครรภ์ 

·       ประวัติเกี่ยวกับการคลอด      

·       พัฒนาการที่ผ่านมา     

·       การเล่นตามวัย การช่วยเหลือตนเอง   

·       ปัญหาพฤติกรรม   

·       ประวัติอื่นๆ

เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า

·       ลักษณะพัฒนาการล่าช้าเป็นแบบคงที่ หรือถดถอย

·       เด็กมีระดับพัฒนาการช้าหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน

·       มีข้อบ่งชี้ว่ามีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่

·       สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร

·       ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร

2. การตรวจร่างกาย 

·       ตรวจร่างกายทั่วๆไปและการเจริญเติบโต

·       ภาวะตับม้ามโต 

·       ผิวหนัง

·       ระบบประสาทและวัดรอบศีรษะด้วยเสมอ

·       ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)

·       ระบบการมองเห็นและการได้ยิน

3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ 

4.การประเมินพัฒนาการ การประเมินแบบไม่เป็นทางการ(ประเมินโดยการพูดคุยกับผู้ปกครองเด็กพิเศษ)

การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ

·       แบบทดสอบ Denver II

·       Gesell Drawing Test 

·       แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด - 5 ปี สถาบันราชานุกูล

         หลังจากที่เราได้เรียนเนื้อหา อาจารย์ เบียร์ ก็มีกิจกรรมมาให้ทำคือ เป็นแบบทดสอบการวัด IQ โดยการวาดภาพตามรูปที่กำหนดดังนี้ โดยจะเป็นทีละรูป

ผลงานตัวเอง รูปบ้างรูปเกือบวาดไม่ได้ : )

การประเมิน                                                                                                                      

ประเมินตนเอง วันนี้เข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนเป็นอย่างดีและคอยให้ความร่วมมือในการตอบคำถามและการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี

ประเมินเพื่อน วันนี้เพื่อนๆทุกคนน่ารัก ตั้งใจเรียน และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

ประเมินอาจารย์ อาจารย์มีความตรงต่อเวลาในการเข้าสอน มีความน่ารักและเป็นกันเอง อาจารย์อธิบายรายละเอียดกับวิชาที่เราจะได้เรียนอย่างเข้าใจ และอธิบายเนื้อหาที่ได้เรียนวันนี้ได้อย่างเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างต่างๆที่ให้เราได้เห็นภาพได้ชัดขึ้น มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำในระหว่างที่เรียน มีการถามตอบคำถาม อยู่เสมอ ทำให้การเรียนในห้องไม่น่าเบื่อ