บันทึกการเรียนครั้งที่ 9
วันศุกร์ ที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2560 เวลา 8:30 – 12:30 น.
เนื้อหาการเรียนการสอน

ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ(ลักษณะเด็กที่มีความบกพร่อง)
8.เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ (Children with
Behavioral and Emotional Disorders)
•มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ
•แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
•มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
•เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินานๆ ไม่ได้
•เด็กที่ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
•ความวิตกกังวล (Anxiety) ซึ่งทำให้เด็กมีนิสัยขี้กลัว
•ภาวะซึมเศร้า (Depression) มีความเศร้าในระดับที่สูงเกินไป
•ปัญหาทางสุขภาพ และขาดแรงกระตุ้นหรือความหวังในชีวิต
การจำแนกเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
ตามกลุ่มอาการ
ด้านความประพฤติ (Conduct
Disorders)
•ทำร้ายผู้อื่น ทำลายสิ่งของ ลักทรัพย์
•ฉุนเฉียวง่าย หุนหันพลันแล่น และเกรี้ยวกราด
•กลับกลอก เชื่อถือไม่ได้ ชอบโกหก ชอบโทษผู้อื่น
•เอะอะและหยาบคาย
•หนีเรียน รวมถึงหนีออกจากบ้าน
•ใช้สารเสพติด
•หมกมุ่นในกิจกรรมทางเพศ
ตัวอย่างผลงานเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์



ด้านความตั้งใจและสมาธิ (Attention and
Concentration)
สมาธิสั้น (Attention Deficit)
•มีลักษณะกระวนกระวาย ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้
หยุกหยิกไปมา
•พูดคุยตลอดเวลา
มักรบกวนหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
•มีทักษะการจัดการในระดับต่ำ
การถอนตัวหรือล้มเลิก (Withdrawal)
•หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
และมักรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น
•เฉื่อยชา และมีลักษณะคล้ายเหนื่อยตลอดเวลา
•ขาดความมั่นใจ ขี้อาย ขี้กลัว ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก
ความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย(Function
Disorder)
•ความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน (Eating
Disorder)
•การอาเจียนโดยสมัครใจ (Voluntary
Regurgitation)
•การปฏิเสธที่จะรับประทาน
•รับประทานสิ่งที่รับประทานไม่ได้
•โรคอ้วน (Obesity)
•ความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะ (Elimination
Disorder)
ภาวะความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ระดับรุนแรง
•ขาดเหตุผลในการคิด
•อาการหลงผิด (Delusion)
•อาการประสาทหลอน (Hallucination)
•พฤติกรรมการทำร้ายตัวเอง
สาเหตุ
•ปัจจัยทางชีวภาพ (Biology)
•ปัจจัยทางจิตสังคม (Psychosocial)
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก
•ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
•รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกับครูไม่ได้
•มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
•มีความคับข้องใจ มีความเก็บกดอารมณ์
•แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดตามส่วนต่าง ๆ
ของร่างกาย
•มีความหวาดกลัว
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
•เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention
Deficit and Hyperactivity Disorders)
•เด็กออทิสติก (Autistic) หรือ
ออทิสซึ่ม (Autisum)
เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention Deficit
Hyperactivity Disorders)
ADHD เป็นภาวะผิดปกติทางจิตเวชมีลักษณะเด่นอยู่ 3
ประการ คือ
Inattentiveness(สมาธิสั้น)
•ทำอะไรได้ไม่นาน วอกแวก ไม่มีสมาธิ
•ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำได้นานเพียงพอ
•มักใจลอยหรือเหม่อลอยง่าย
•เด็กเล็กๆจะเล่นอะไรได้ไม่นาน เปลี่ยนของเล่นไปเรื่อยๆ
•เด็กโตมักทำงานไม่เสร็จตามที่สั่ง ทำงานตกหล่น ไม่ครบ
ไม่ละเอียด
Hyperactivity(ซนอยู่ไม่นิ่ง)
•ซุกซนไม่ยอมอยู่นิ่ง ซนมาก
•เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
•เหลียวซ้ายแลขวา
•ยุกยิก แกะโน่นเกานี่
•อยู่ไม่สุข ปีนป่าย
•นั่งไม่ติดที่
•ชอบคุยส่งเสียงดังรบกวนคนรอบข้าง
Impulsiveness(หุนหันพลันแล่น)
•ยับยั้งตัวเองไม่ค่อยได้ มักทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด
วู่วาม
•ขาดความยับยั้งชั่งใจ
•ไม่อดทนต่อการรอคอย หรือกฎระเบียบ
•ไม่อยู่ในกติกา
•ทำอะไรค่อนข้างรุนแรง
•พูดโพล่ง ทะลุกลางปล้อง
•ไม่รอคอยให้คนอื่นพูดจบก่อน
ชอบมาสอดแทรกเวลาคนอื่นคุยกัน
สาเหตุ
•ความผิดปกติของสารเคมีบางชนิดในสมอง
เช่น โดปามีน (dopamine) นอร์อิพิเนฟริน
(norepinephrine)
•ความผิดปกติในการทำงานของวงจรที่ควบคุมสมาธิ
และการตื่นตัว อยู่ที่สมองส่วนหน้า (frontal
cortex)
•พันธุกรรม
•สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมาธิสั้น
•สมาธิสั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกผิดวิธี
ตามใจมากเกินไป หรือปล่อยปละละเลย
จนเกินไป และไม่ใช่ความผิดของเด็กที่ไม่สนใจ
ไม่ใส่ใจ แต่ปัญหาอยู่ที่การทำงานของสมองที่ควบคุม
ยารักษาโรคสมาธิสั้นที่ใช้ในประเทศไทย

มี 2 กลุ่มคือ
ความแตกต่างระหว่างอยู่ไม่สุขกับสมาธิสั้น
อยู่ไม่สุข (Hyperactivity ) มีอาการเดียว
คืออาการอยู่ไม่สุข
สมาธิสั้น (Attention Deficit ) มี
3 อากาศร่วม คือ ขาดสมาธิ ซนอยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
•อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน
•ยังติดขวดนม หรือตุ๊กตา และของใช้ในวัยทารก
•ดูดนิ้ว กัดเล็บ
•หงอยเหงาเศร้าซึม การหนีสังคม
•เรียกร้องความสนใจ
•อารมณ์หวั่นไหวง่ายต่อสิ่งเร้า
•ขี้อิจฉาริษยา ก้าวร้าว
•ฝันกลางวัน
•พูดเพ้อเจ้อ
9. เด็กพิการซ้อน (Children with
Multiple Handicaps)
•เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่าง
เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
•เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน
•เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
•เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด
การประเมิน
ประเมินตนเอง
วันนี้เข้าเรียนตรงเวลาและไม่พูดคุยในขณะที่อาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน
วันนี้เพือ่นๆตั้งใจเรียนทุกคนเข้าเรียนตรงเวลาและแต่งกายเรียบร้อย
ประเมินอาจารย์
อาจารย์ได้มีภาพผลงานของเด็กมาให้ดูทำให้เรามองเห็นและเข้าใจได้อย่างชัดเจน
อาจารย์มีการนำคลิปมาให้ชมเพื่อให้เราได้ทราบถึงวิธการบำบัดเด็กที่สมาธิสั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น